ลดอ้วน ลดโรคแบบปลอดภัยกับคลินิกลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
ด้วยวิถีชีวิตในปัจจุบัน ทำให้คนเป็นโรคอ้วนมากขึ้น และเชื่อว่าผู้ที่อยู่ในภาวะอ้วน หลายคนต้องเคยมีประสบการณ์ในการลดความอ้วนมาหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การคุมอาหาร การใช้ยาลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ได้ผล บางคนอาจจะลดน้ำหนักได้ในช่วงแรก แต่ก็กลับมาอ้วนใหม่
ทำให้รู้สึกว่าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องยาก ส่งผลกระทบทั้งเรื่องของสุขภาพ บุคลิกภาพ ความสวยความงาม ความมั่นใจ นอกจากนี้โรคอ้วนยังส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคข้อเสื่อม เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก รวมถึงความเสี่ยงในการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
คลินิกลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ เข้าใจทุกปัญหาและความกังวลของคุณ
- เรามีบริการลดน้ำหนักที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
- เราพร้อมดูแลผู้ที่มีน้ำหนักเกิน โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
- ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
- ตอบโจทย์การลดน้ำหนักที่ตรงกับปัญหาและร่างกายของแต่ละบุคคล
บริการของเรา
ปัจจุบันอีกหนึ่งทางเลือกในการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ได้แก่การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนัก ถือเป็นวิธีการรักษาที่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในระดับสากล ที่ช่วยรักษาโรคอ้วนและลดน้ำหนักที่ได้ผลดีมาก
การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก มีวิธีหลักอยู่ 2 วิธี ได้แก่
1. การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (Sleeve Gastrectomy)
- ลดขนาดกระเพาะให้เหลือประมาณ 20% และตัดส่วนที่หลั่งฮอร์โมนความหิวทิ้ง
- น้ำหนักส่วนเกินลดลง 50-60% ใน 12-18 เดือน
- ทำให้โรคร่วมดีขึ้น 70-80%
- ไม่เหมาะกับคนที่มีภาวะกรดไหลย้อน หรือหลอดอาหารอักเสบรุนแรง
2. การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะและตัดต่อบายพาสลำไส้เล็ก (Roux-en-Y Gastric Bypass)
- ลดขนาดกระเพาะและตัดต่อบายพาสลำไส้เล็ก
- น้ำหนักตัวลดลง 30-35% ที่ 1 ปีหลังผ่าตัด
- ทำให้โรคร่วมดีขึ้นโดยเฉพาะเบาหวาน
- เหมาะสำหรับคนที่มีน้ำหนักมาก ๆ คุมเบาหวานได้ไม่ดี หรือกรดไหลย้อนรุนแรง
การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 18-65 ปี
- ผู้ที่เป็นโรคอ้วนและมีภาวะทางสุขภาพที่เกี่ยวกับโรคอ้วนตามเกณฑ์การพิจารณา หรือผู้ที่มีดัชนีมวลกาย หรือ BMI ตามเงื่อนไขดังนี้
- มีค่าดัชนีมวลกาย ( BMI) ตั้งแต่ 32.5 กิโลกรัม/ตารางเมตร ขึ้นไปและมีโรคร่วมที่สัมพันธ์กับความอ้วน
- มีค่าดัชนีมวลกาย ( BMI) ตั้งแต่ 37.5 กิโลกรัม/ตารางเมตร ขึ้นไปโดยอาจไม่มีโรคร่วมซึ่งไม่สามารถควบคุมโรคร่วมที่เกิดภาวะอ้วนได้ดี ด้วยการรักษาแบบปกติ หรือผ่านการลดความอ้วนด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล และไม่มีข้อห้ามในการผ่าตัด
การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ดีอย่างไร
1. การผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ใช้วิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันสมัย ได้รับการยอมรับ และเป็นมาตรฐานในการรักษาโรคอ้วนและการลดน้ำหนักที่ได้ผลดี
- ผลข้างเคียงน้อย
- แผลเล็ก
- เจ็บน้อย
- ฟื้นตัวเร็ว
- ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย พักรักษาตัวประมาณ 2-4 วันก็สามารถกลับบ้านได้
2. มีโอกาสกลับมาอ้วนได้น้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น
สามารถรักษาและลดความรุนแรงและลดโอกาสการเกิดโรคร่วมอื่น ๆ ที่เกิดจากความอ้วนได้ เช่น ลดระดับน้ำตาลสะสม (A1C) ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ช่วยปรับความดันโลหิต ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคข้อเสื่อม ภาวะมีบุตรยาก ภาวะประจำเดือนมาผิดปกติ ไขมันเกาะตับ หรือหอบหืด เป็นต้น
*แต่การผ่าตัดกระเพาะอาหาร อาจไม่ได้ช่วยเรื่องการลดไขมันในเลือดชนิด LDL คนไข้จึงควรควบคุมอาหารตามหลักโภชนาการและออกกำลังกายร่วมด้วย*
ประโยชน์ที่ได้รับจากการผ่าตัดกระเพาะอาหาร
- น้ำหนักตัวและดัชนีมวลกายลดลง
- คุณภาพชีวิตดีขึ้น
- มีความคล่องตัวในการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
- สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
- ผลการรักษาโรคต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กับโรคอ้วนดีขึ้น เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ไขมันพอกตับ ตับ
- อักเสบจากไขมันพอกตับ ตับแข็ง นิ่วในถุงน้ำดี โรคไขข้อต่าง ๆ จากการรับน้ำหนักตัวมากเกินไป ภาวะมีบุตรยาก ประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมถึงโรคมะเร็งที่มีภาวะอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยง
- ช่วยให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดมีความมั่นใจในรูปร่างและบุคลิกภาพมากขึ้น
อย่าปล่อยให้โรคอ้วน บั่นทอนความมั่นใจและการใช้ชีวิต
เราเชื่อมั่นว่าด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเรา
สามารถช่วยให้คุณก้าวผ่านภาวะโรคอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
